บัญชีของคุณ
บัญชีของคุณ
ประวัติการสั่งซื้อ
ที่อยู่
เปลี่ยนรหัสผ่าน
ตั้งค่าบัญชี
ออกจากระบบ
บัญชีของคุณ
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังฟังเพลงโปรดในหูฟัง แต่จู่ ๆ สายก็ดันขยับ ทำให้เสียงขาด ๆ หาย ๆ มันน่าหงุดหงิดใช่ไหม? หรือเวลาเห็นนักร้องกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที หรือพิธีกรกำลังพูดอย่างคล่องแคล่ว แต่เสียงที่ออกมากลับไม่เสถียร ขาด ๆ หาย ๆ ขยับสายเท่าไหร่ก็ยังแก้ไม่หาย ทำให้การฟังไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น
หลายคนอาจสงสัยว่า "ทำไมไม่ใช้ไมโครโฟนไร้สายล่ะ? มันสะดวกกว่าเยอะ!" แต่ความจริงคือ แม้ไมโครโฟนแบบ Bluetooth หรือไร้สายจะทำให้การเคลื่อนไหวคล่องตัวขึ้น แต่สัญญาณกลับไม่เสถียรเท่ากับไมโครโฟนแบบมีสาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการความคมชัดของเสียง เช่น คอนเสิร์ต การแสดงสด หรือการบันทึกรายการโทรทัศน์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนักร้องและพิธีกรส่วนใหญ่ยังเลือกใช้ไมโครโฟนแบบมีสาย เพราะการส่งเสียงที่เสถียรและคมชัดคือหัวใจสำคัญ ไม่มีอะไรน่าผิดหวังไปกว่าการขึ้นเวทีแล้วเสียงไม่ออกหรือขาดหายไป บางทีสายอาจจะเกะกะบ้าง แต่ก็เป็นตัวช่วยให้แน่ใจได้ว่าเสียงจะส่งถึงผู้ฟังได้ครบถ้วนทุกรายละเอียด
ทำไมสายสัญญาณถึงทำให้เกิดเสียงขาด ๆ หาย ๆ? สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะขั้วต่อไม่แน่น หรือมีปัญหาที่สายสัญญาณเอง และนั่นคือสิ่งที่เราจะมาหาคำตอบในบทความนี้ เรามาเริ่มจากพื้นฐานของสายสัญญาณ เช่น สายไมโครโฟน, สายลำโพง, สายสัญญาณ RS485 กันก่อน
สายสัญญาณส่วนใหญ่ประกอบด้วยเส้นลวดทองแดงหลายเส้นที่พันรวมกัน ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเส้นลวดทองแดงที่อยู่ใกล้กันในสายจะทำให้เกิดปรากฏการณ์บางอย่าง…
เมื่อเส้นลวดตัวนำอยู่ใกล้กันในสายสัญญาณ มันจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "Parasitic capacitance" หรือ ตัวเก็บประจุปรสิต นี่คือค่าความจุที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ มันจะทำให้เกิดการสะสมประจุไฟฟ้าและทำให้สัญญาณไฟฟ้าในสายเกิดการรบกวน ส่งผลให้เสียงที่ส่งผ่านสายออกมาไม่เสถียร
ปรากฏการณ์นี้คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เสียงขาด ๆ หาย ๆ และเป็นสิ่งที่ Hosiwell ต้องคำนึงถึงเมื่อออกแบบสายสัญญาณ เพราะแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็สามารถส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อคุณภาพของเสียงได้ ดังนั้น การเลือกใช้สายสัญญาณที่ดี มีการออกแบบเพื่อลดผลกระทบจาก Parasitic capacitance จะช่วยให้เสียงที่ออกมาคมชัด เสถียร และไม่ขาดหาย ให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังได้เต็มที่